Realm of Valor เกม MOBA สุดร้อนแรงตัวใหม่จาก Garena ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเราเลยจะพามารู้จักกับฮีโร่สุดหล่ออย่าง Van Helsing ฮีโร่สาย ADC ที่เราได้รับมาฟรีๆ เป็นตัวแรกกัน ว่าพี่เค้ามีความเก่งกาจยังไงบ้าง เห็นหล่อๆ แบบนี้ ร้ายไม่ใช่เล่นเลยล่ะจ้า!
ตำแหน่งหลักและหน้าที่
Van Helsing เป็นฮีโร่ที่จัดอยู่ในกลุ่มแครี่ ซึ่งมีความสามารถในการทำดาเมจได้หนักหน่วงมากๆ อีกทั้งยังมีสกิลที่เพิ่มความเร็วในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้เค้าสามารถทำการ kite (ตอดศัตรูจากระยะไกล) ได้ดีเพราะสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้รวดเร็วจากผลของสกิลแทบจะทุกท่าของเค้า อีกทั้งยังมีท่าที่สามารถทำให้ศัตรูสตั๊นได้ถึง 2 สกิลด้วยกันคือ Pocket Glaive และ Curse of Death ส่วนเลนที่ไปนั้น เค้าสามารถไปได้ทั้งเลนคู่และเลนเดี่ยว แต่จะให้ดีไปกับเพื่อนที่มีสกิล หยุดศัตรูด้วยอีกแรงจะทำให้เก็บแต้มได้ง่ายขึ้นมาก
Skills : อ้างอิงจากเลเวล 1
ตารางแนะนำการอัพสกิลเบื้องต้น ผู้เล่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ตนเอง และสถานการณ์เกมนั้นๆเลยจ้า
การอัพสกิลและคอมโบ : ในช่วงแรกเลยนั้นผมแนะนำให้อัพสกิล Curse of Death ก่อนเพื่อที่จะเอาไว้ป้องกันตัวเอง กรณีที่เจอเหตุไม่คาดฝัน และตามด้วย Bloody Hunt ที่เอาไว้ทำดาเมจใส่ศัตรูเพิ่มเติม จุดสำคัญที่ควรรีบอัพ Curse of Death ให้เต็มก่อนก็เพื่อลดคูลดาวน์ของสกิลด้วยนั่เนองครับ เพราะในไฟต์นั้น เรามักที่จะโดนเล็งเป็นเป้าหมายแรกๆ ส่วนของการคอมโบนั้นผมแนะนำว่าให้ เปิดด้วย Bloody Hunt > Curse of Death > โจมตีปกติ > Bullet Storm มีเทคนิคเล็กน้อยคือในระหว่างที่ใช้สองสกิลแรก เราพยามเข้าประชิดอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด จากผลของสกิลติดตัว เพื่อที่จะได้ใช้ Bullet Storm ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ (ยิ่งโดนหลายนัดยิ่งแรง) หรือถ้าหากว่าเราสามารถหาดาวกระจายสีเหลืองได้ จะใช้เปิดนำ Bloody Hunt ก็ไม่เลวนะครับ
Bullet Storm จะรุงแรงมากๆ หากเรายิงในระยะใกล้ เพราะศัตรูจะโดนกระสุนของเราหลายนัด
สกิล Passive : Pocket Glaive
- เป็นสกิลหลักและเป็นจุดเด่นของ ตัวละครตัวนี้เลยล่ะครับ โดยทุกๆ การโจมตี 3 ครั้งเราจะสุ่มหอกออกมา โดยจะมีเอฟเฟ็กต์ 3 แบบด้วยกันคือ สีเหลืองทำให้ศัตรูสตั๊น, สีแดงสร้างความเสียหายให้ศัตรูและตัวรอบๆ เป็นเวท , สีฟ้าสร้างความเสียหายเป็นเวทใส่เป้าหมาย
หอกสีแดงสามารถใช้เคลียร์คลีปตอนต้นเกมได้ดีมากๆ
สกิล 1 : Bloody Hunt
- สกิลล็อกเป้าหมาย ที่มีระยะการใช้งานไกลพอสมควร เป็นท่าที่ใช้ตอดเล็กตอดน้อยศัตรูได้ดีมาก อีกทั้งยังเร่งความเร็วของเราเพิ่มขึ้นมาระยะเวลาหนึ่ง ทำให้เราสามารถที่จะใช้ไล่กวดฮีโร่อีกฝ่ายที่กำลังหนีได้ด้วย ถ้าหากว่าเราจะใช้ไล่ศัตรูล่ะก็ อาจจะใช้สกิลนี้ยิงคลีป และเร่งความเร็วเพื่อไปใช้สกิลอื่นๆ กับศัตรูต่อก็ได้ครับ อีกนิดนึงคือสกิลนี้จะมีความแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามดาเมจกายภาพของเรา ซึ่งมี % ที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นหากใครที่ชอบสกิลตอดหนักๆ จะเน้นมาอัพสกิลนี้ก่อนก็ไม่ว่ากันนะครับ สำหรับดาเมจตั้งต้นของสกิลนี้จะอยู่ที่ 190 หน่วยในเลเวลแรกครับ
สกิล 2 : Curse of Death
- สกิลล็อกเป้าหมายอีกเช่นกัน ซึ่งมีวิธีการใช้ง่ายมากๆ เล็งตัวไหนโดนตัวนั้น(ถ้าอยู่ในระยะ) แถมระยะยังไกลพอสมควรเลยด้วย ที่สำคัญคือหลังจากการใช้งานแล้ว จะทำให้ศัตรูติดสตี๊นรวมถึงทำให้อัตราการเคลื่อนที่ของเราเพิ่มขึ้นระยะเวลาหนึ่ง นับว่าเป็นสกิลสารพัดประโยชน์มากๆ ทั้งการใช้ไล่ฆ่าศัตรู หรือการหนีเอาตัวรอด รวมไปถึงใช้ป้องกันตัวจากพวกตัวที่จะมาล้วงฆ่าเราด้วย สำหรับดาเมจในตอนแรกจะอยู่ที่ 150 และจะบวกเพิ่มไปเรื่อยๆ ตามพลังโจมตีของเรา (แต่สเกลของสกิลนี้จะน้อยกว่า Bloody Hunt พอดูเลยครับ)
- Note : ดาเมจของสกิล Curse of Death อาจจะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เป็นสกิลที่ทำให้เราสามารถเอาตัวรอดได้ทั้งเกม ผมจึงแนะนำให้อัพเต็มไปก่อน เพื่อที่จะลดคูลดาวน์ให้ใช้ได้ไวที่สุดครับ (แต่หากคิดว่าไม่ค่อยได้ใช้จะหันไปอัพสกิลอื่นก่อนก็ได้)
สกิล 3 Ultimate : ฺBullet Storm
- สกิลอัลติเมทที่มีระยะกว้างมากๆ และสามารถใช้เก็บครีปได้ไวสุดๆ การจะใช้ให้ได้มีประสิทธิภาพนั้น เราควรใช้สกิลนี้จ่อไปที่ฮีโร่หรือคลีปที่ต้องการโจมตีไปเลย เพราะยิ่งโดนกระสุนมากเท่าไหร่ ผลของสกิลก็จะยิ่งมากเท่านั้นครับ
- Note: ในช่วงแรก Bullet Storm เป็นสกิลที่ดีมากๆ ในการกดดันฮีโร่ศัตรูต้นเกม โดยเฉพาะหากยิงในระยะประชิด แต่ในช่วงหลัง การจะยิงให้แรง เราต้องเข้าไปเสี่ยงในระยะปะทะมากเกินไป และอาจโดนรุมเก็บได้
ภาพซ้ายคือดาเมจที่ได้จากการยิงในระยะประชิด ส่วนขวาคือดาเมจจากการยิงระยะไกล
การออกไอเทม
- ไอเทมของ Van Helsing จะเน้นไปที่โจมตีกายภาพและความเร็วในการโจมตีเป็นหลัก เพราะสกิล Passive ของเขานั้นต้องอาศัยการโจมตีที่เร็ว จึงจะสามารถใช้ได้บ่อย โดยผมแนะนำให้ออกดาเมจนำแล้วตามด้วย ความเร็วในการโจมตีแต่ก็อย่าลืมออกรองเท้ากันด้่วยล่ะ เพราะไม่อย่างนั้นการ kite ศัตรูในตอนต้นเกมจะทำได้ลำบากมาก
- ไอเทมในชุดนี้เป็นไอเทมที่แนะนำให้ออกในสถานการณ์ ปกติ ซึ่งแต่ละคนอาจจะออกแบบอื่นก็ได้แล้วแต่ความชอบและความถนัดครับ โดยไอเทม The Beast จะช่วยให้เรายืนในเลนได้นานขึ้นโดยไม่ต้องกลับบ้านบ่อยๆ แต่หากเราคิดว่าไม่มีปัญหาเพราะไม่ค่อยได้ปะทะ อาจะข้ามไปออกไอเทมดาเมจชิ้นอื่นเลยก็ได้ อะไรแบบนี้เป็นต้น
ไอเทมตามสถานการณ์
- กรณีที่เราเจอกับสถานการณ์ต่างๆ ไอเทมเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างดี ในการใช้งาน ซึ่งจะมีอะไรบ้างไปดูกันครับ
Spear of Longinus จะทำให้เราสามารถลดเกราะของเป้าหมายได้มหาศาล ทำให้เราและเพื่อนในทีมสามารถจัดการเป้าหมายได้ง่ายขึ้นมากๆ
ขวานที่ช่วยในเรื่องของเลือด ซึ่งหากเราตายบ่อยๆ ในการไฟต์ การออกไอเทมชิ้นนี้จะช่วยได้เยอะเลยทีเดียวครับ
ไอเทมที่เหมาะกับการเอาไปเจาะแท้งหนาๆ เป็นอย่างยิ่ง และด้วยความที่มัน + ความเร็วการโจมตีด้วย ทำให้เหมาะกับสกิล Passive ของตัวละครนี้มากๆ
ไอเทมยอดนิยมอีกชิ้นนึงที่น่าหยิบมาใช้ เพราะมันช่วยให้เรารอดตายจากสถานการณ์ล่อแหลมได้ดีมากๆ และยังเพิ่มค่าเจาะเกราะให้เราอีกถึง 45% งานนี้แท้งหน้าหงายแน่นอน
แนะนำรูน
- รูนของตัวละครนี้ ผมขอแนะนำให้เน้นไปที่รูนที่เกี่ยวกับพลังโจมตี หรือความเร็วในการโจมตีครับ และอาจจะแทรกดูดเลือดเข้าไปเล็กน้อย เพือที่จะทำให้อยู่ในเลนได้นานขึ้น โดยรูนที่แนะนำจะมีดังต่อไปนี้
- รูนแดงที่เหมาะกับตัวละครนี้คือ Sword ที่ + พลังโจมตีให้เราถึงชิ้นละ 3.2 หรือถ้าใครที่ชอบเจาะเกราะไปด้วยอาจจะเปลี่ยนเป็น Onslaught ที่ได้ทั้งค่าเจาะเกราะและพลังโจมตี สุดท้ายที่อยากจะแนะนำคือ Bloodlust ที่จะทำให้เราได้ค่าดูดเลือดด้วยครับ ซึ่งจะใช้ชิ้นไหนนั้นหลักๆแล้ว จะอยู่กับรูปแบบการเล่นของเราและทีมเสียมากกว่า
รูนสีแดง
รูนสีม่วง
- สำหรับรูนสีม่วงนี้เราอาจจะเสริมจุดเด่นของ Van Helsing ให้ดียิ่งขึนด้วยรูน Assassinate ที่นอกจากจะได้พลังดจมตีแล้ว ยังได้ความเร็วในการเคลื่อนที่ด้วย เอาไว้ใช้ในการ kite ได้ดีมาก หรือถ้าใครอยากเล่นแบบเน้นยืนเลนนานๆ อาจจะใส่รูน Essence Reaver เอาไว้ดูดเลือดก็จะทำให้เรายืนในเลนได้นานขึ้นพอดูเลยล่ะครับ ซึ่งเราอาจจะใส่ผสมๆ กันก็ได้นะ ไม่ต้องใส่แค่แบบเดียว
รูนสีเขียว
- ส่วนรูนเขียวที่ดูแล้วเหมาะสุดสำหรับฮีโร่ตัวนี้จะขอแนะนำเป็น Dragon's Claw ที่จะทำให้เราได้ค่าเจาะเกราะถึง 6.4 และยังได้พลังโจมตีอีกนิดหน่อยด้วย
Challenger Spell ที่น่าใช้
- Van Helsing มักจะโดนเล็งเป้าก่อนเป็นตัวแรกๆ ดังนั้น Challenger Spell ที่แนะนำให้ใช้จึงเป็น Spell ที่เอาไว้ใช้เอาตัวรอดเป็นส่วนใหญ่ครับ
สกิลพื้นฐานอย่าง Sprint นี่ทำให้ผมสามารถเอาตัวรอดมาได้นักต่อนักแล้ว อีกทั้งยังใช้ไล่ฆ่าได้ดีมากๆ ด้วย
อีกหนึ่งสเปลแนะนำ อย่าง Roar ที่จะทำให้ตัวเราตีไวขึ้นมากๆ ส่งผลให้สกิล Passive ออกบ่อยขึ้นครับ
Purify จะทำให้เราสามารถล้างสถานะผิดปกติ ที่โดนอยู่ทั้งหมดได้ ทำให้สามารถวิ่งหนีได้อย่างสวยๆ
Flicker เป็นสกิลที่ทำให้เราหนีออกจากวงล้อมของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว ซึ้่งน่าหยิบมาใช้ไม่น้อยเลยล่ะครับ ถึงแม้ว่าคูลดาวน์จะนานไปนิด แต่ถ้าใช้ดีๆ รับรองว่าช่วยให้รอดได้แน่ๆ
จุดแข็ง
- เป็นแครี่ที่ครบเครื่อง มีทั้งท่าสตั๊น และเร่งความเร็ว ทำให้เค้าโดนฆ่ายาก
- Van Helsing เป็น ADC แครี่ที่เก่งมากๆ ในช่วงต้นเกม สกิลของเค้าสามารถใช้คุมเลนได้ดีมาก
- มีท่าหยุดศัตรูถึงสองท่าด้วยกัน
- ได้ฟรีไม่ต้องซื้อ
จุดอ่อน
- ฮีโร่ตัวนี้เก่งในช่วงต้นเกม-กลางเกม หากเราไม่สามารถกดดันศัตรูช่วงต้นเกมได้ อาจจะลำบากในช่วงท้ายเกม
- ท่า Ultimate ไม่ค่อยมีประโยชน์ในช่วงท้ายเกม
- สกิล Passive ต้องใช้ดวงค่อนข้างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น